วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การขาย 1 ภาคเรียน 3/2555 รอบวันอาทิตย์

8 ความคิดเห็น:

  1. ให้นักศึกษาหาข้อมูลในการทำรายงานเรื่อง
    กลยุทธ์การตลาดแบบ below the line กับ above the line
    กำหนดส่งก่อนสอบ ทดสอบย่อยครั้งที่ 2

    ตอบลบ
  2. เฉลย แบบฝึกหัดท้ายบท
    บทที่1
    1. ข้อใดดังต่อไปนี้ให้ความหมายของคำว่า “Selling” (การขาย) ได้ดีที่สุด
    ค. การชักชวนหรือจูงใจให้คนต้องการสิ่งที่นักขายมีอยู่ซึ่งอาจเป็นสินค้า บริการ หรือความคิด ก็ได้
    2. ข้อใดเป็นลักษณะความสำคัญของงานขายต่อสังคม
    ก. การขายมีส่วนให้สินค้าและบริการตอบสนองให้คนทั่วไปเพื่อให้คนทั่วไปได้รับความสะดวกสบาย
    3. การประกอบกิจกรรมทางธุรกิจ หมายถึงลักษณะในข้อใด
    ค. สมฤดีเป็นพนักงานขายของหน้าร้านแห่งหนึ่ง
    4. ข้อใดคือ หลักการพื้นฐานของการขายที่เป็นการให้ความช่วยเหลือลูกค้า
    ค. การเสนอขายสินค้าที่มีประโยชน์ต่อลูกค้า
    5. ข้อใด ไม่ใช่ ความหมายของ การตลาด ก. กิจกรรมของการแลกเปลี่ยนแนวความคิด
    6. ข้อใดคือความสำคัญของการตลาดที่มีต่อสังคม ข. ทำให้ประชาชนมีงานทำ
    7. แนวความคิดทางการตลาดแบบใดที่ยึดหลักที่ว่า ผู้ซื้อมีความแตกต่างกันในแต่ละกลุ่ม
    ค. แบบมุ่งเน้นการตลาด
    8. Corporate Social Responsibility หรือ CSR เป็นแนวความคิดทางการตลาดแบบใด
    ง. ให้ความสนใจกับสิ่งแวดล้อมและสังคม
    9. แนวความคิดทางการตลาดแบบเน้นการขาย จะใช้กลยุทธ์ใดในการดำเนินงาน
    ก. การส่งเสริมการขาย
    10. แนวความคิดทางการตลาดแบบใด ผู้บริโภคมีความพอใจสินค้าที่หาซื้อง่ายและราคาต่ำ
    ข. แบบเน้นการผลิต
    11. การซื้อขายสินค้าและบริการทางคอมพิวเตอร์ใช้วิธีการลักษณะใด ข. E-Commerce
    12. บทบาทของงานขายมีลักษณะอย่างไร ง. ถูกทุกข้อ
    13. คำว่า “Local Peddler” หมายถึงอะไร ก. พ่อค้าเร่ขายสินค้าที่เป็นพืชผลทางการเกษตร
    14. เพราะเหตุใดจึงเกิดการแข่งขันกันทางธุรกิจ
    ก. เพราะต้องการมีลูกค้าและขายสินค้าให้มากที่สุด
    15. ข้อใดหมายถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม
    ง. การผลิตสินค้าโดยใช้วิธีการทางเทคโนโลยีและเครื่องจักรแทนแรงงานคนและสัตว์
    16. Sufficiency Economy หมายถึงข้อใด ข. เศรษฐกิจพอเพียง
    17. ข้อใด ไม่ใช่ คำนิยามของ ความพอเพียง ในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ก. เสมอภาค
    18. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หมายถึงข้อใด
    ง. การพร้อมที่จะรับกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
    19. การดำเนินกิจกรรมให้อยู่ในระดับพอเพียง ต้องอาศัยสิ่งใด ข. ความรู้ และคุณธรรม
    20. ส่วนประสมทางการตลาด Marketing Mix ประกอบด้วยอะไรบ้าง
    ค. Product, Price, Place, Promotion

    บทที่ 2
    1. ร้านรับตัดชุด จัดเป็นงานขายประเภทใด ก. งานขายตรง
    2. เป้าหมายของการจัดแสดงสินค้าคืออะไร ข. แนะนำข้อมูลและลักษณะสินค้า
    3. ห้างแม็คโคร ถือเป็นกิจกรรมประเภทใด ค. ค้าส่ง
    4. การขายประเภทบริการตนเอง คืออะไร ง. ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเอง
    5. ข้อใดคือคนกลางในระบบการขาย ง. ถูกทุกข้อ
    6. สินค้าประเภทใดที่ ไม่ต้อง มีบริการหลังการขาย ข. กุญแจ
    7. บุคคลใดต่อไปนี้คือพนักงานขายปลีก ง. ถูกทุกข้อ
    8. พนักงานขายสินค้าอุตสาหกรรมประเภทใดที่ต้องมีความรู้ทางด้านช่างเทคนิค
    ข. วิศวกรฝ่ายขาย
    9. ในกรณีที่มีบริษัทเปิดใหม่และนำสินค้าที่ผลิตไปนำเสนอแก่ลูกค้าจัดเป็นพนักงานประเภทใด
    ง. พนักงานแนะนำสินค้า
    10. ข้อใดคืองานขายสินค้าตามเส้นทาง ก. แดงขี่จักรยานขายยาคูลท์
    11. กรณีที่ลงโฆษณาในนิตยสารและให้ลูกค้าที่สนใจสั่งใบสั่งซื้อตามแบบฟอร์มที่กำหนด จัดเป็นการขายแบบใด
    ก. ทางไปรษณีย์
    12. ข้อใดคือสิ่งที่ช่วยให้พนักงานขายทำงานน้อยลง ง. ใช้การติดต่อทางโทรศัพท์
    13. ร้านค้าในข้อใดที่ใช้ระบบ Self Service ข. ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
    14. ข้อใดคืองานส่งเสริมการขาย ง. ถูกทุกข้อ
    15. ใครเป็นผู้มีหน้าที่เสนอผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่เพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ลูกค้า ก. พนักงานขายบุกเบิก

    ให้นักเรียนใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 16-20
    ก. Wholesales Selling ข. Retail Selling
    ค. Telephone Selling ง. Non-Personal Selling
    จ. Industrial Selling

    16. สมศรีซื้อน้ำอัดลมกระป๋องจากตู้หยอดเหรียญ ง. Non-Personal Selling
    17. ประชาซื้อน้ำยาสระผมสมุนไพรจากสหกรณ์แม่บ้านหนองเสือ ข. Retail Selling
    18. วิไลซื้อสินค้าจากห้างแม็คโครไปขาย ก. Wholesales Selling
    19. สหกรณ์บ้านฉางขายอ้อยให้กับโรงงานน้ำตาล จ. Industrial Selling
    20. พรชัยสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกายจากทีวีมีเดีย ค. Telephone Selling





    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ร้านตัดชุดเป็นงานขายประเภทใด

      ลบ
  3. บทที่ 3
    1. ข้อใดหมายถึงช่องทางการจัดจำหน่าย
    ก. วิธีการที่จะขายสินค้าให้แก่ลูกค้าได้รวดเร็วและดีที่สุด
    2. สิ่งใดที่จะเป็นเครื่องชี้วัดว่าช่องทางการจัดจำหน่ายแบบใดดีที่สุด
    ค. ลูกค้าได้รับสินค้าเร็วและคุณภาพดีที่สุด
    3. ข้อใดคือการจัดจำหน่ายทางอ้อม ข. สมโชคจัดส่งน้ำตาลทรายไปยังร้านค้าปลีก
    4. ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแก่ผู้บริโภคแบบใดที่ผู้ผลิตนิยมใช้มากที่สุด
    ข. ช่องทางที่ใช้ผู้ค้าส่งขายสินค้าให้กับผู้ค้าปลีก

    5. เพราะเหตุใดผู้ผลิตจึงเลือกใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายประเภททางอ้อม
    ก. ลดต้นทุนและส่งสินค้าได้รวดเร็ว
    6. สินค้าประเภทใดที่ผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้วิธีการจัดจำหน่ายทางอ้อม ค. ผลไม้
    7. การจะกำหนดช่องทางการจัดจำหน่ายจะต้องอาศัยปัจจัยในข้อใดเป็นสำคัญ
    ง. ลักษณะของสินค้าและบริการ
    8. สภาพแวดล้อมในเรื่องใดที่ควรคำนึงถึงเมื่อจะใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายแต่ละประเภท
    ง. ถูกทุกข้อ
    9. หากสินค้านั้นๆ มีคู่แข่งขันมาก การเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายต้องคำนึงถึงเรื่องใดมากที่สุด
    ง. ถูกทุกข้อ
    10. การเลือกช่องทางที่เป็นเรื่องปริมาณการจัดจำหน่าย ย่อมสร้างผลประโยชน์แก่ผู้ผลิตในเรื่องใด
    ก. กำ ไรมาก
    11. การเลือกใช้ช่องทางที่มุ่งเน้นให้เกิดภาพพจน์ที่ดีแก่สินค้าและบริษัท ได้แก่ องค์ประกอบในข้อใด
    ก. เชิงคุณภาพ
    12. ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าสู่ผู้บริโภคที่นิยมมากที่สุดคือวิธีใด
    ข. ผู้ผลิต  ผู้ค้าส่ง  ผู้ค้าปลีก  ผู้บริโภค
    13. ข้อใดคือช่องทางการจัดจำหน่ายทางอ้อม
    ค. มาโนชส่งนมตราหนองโพให้กับลูกค้าในหมู่บ้าน
    14. เนื้อหมูควรใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายในข้อใดจึงจะเหมาะสม
    ข. โรงฆ่าหมู  พ่อค้าส่ง  พ่อค้าปลีก  ลูกค้า
    15. บุคคลใดต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายสินค้า ง. นายหน้า
    16. การทำธุรกิจต่างๆ จะอยู่ได้นาน ต้องรักษาชื่อเสียงด้านการบริการของสินค้า ดังนั้นการเลือกช่องทางการจัดจำหน่ายควรเน้นในเรื่องใด ข. กำ ไร
    17. บุคคลใดต่อไปนี้ถือเป็นพ่อค้าส่ง ค. พ่อค้าคนกลาง
    18. ข้อใดหมายถึงผู้ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกไปพร้อมๆ กัน ง. Rack Jobber
    19. ข้อใดคือปัญหาที่เกิดจากการมีพ่อค้าคนกลาง ง. ถูกทุกข้อ
    20. วิธีแก้ปัญหาการเอาเปรียบของพ่อค้าคนกลางควรดำเนินการในข้อใด
    ก. ควรกระจายการขายสินค้าแต่ละประเภทกับพ่อค้าคนกลางหลายราย

    บทที่ 4
    1. ข้อใดคือความหมายของการโฆษณา ก. คือ วิธีการจูงใจบุคคลให้เกิดความต้องการสิ่งนั้นๆ
    2. อะไรคือสาเหตุของการใช้โฆษณาเพื่อส่งเสริมการขาย
    ค. เพราะการแข่งขันการขายสินค้าของธุรกิจต่างๆ
    3. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการโฆษณา ง. ถูกทุกข้อ
    4. การโฆษณาขายนาฬิกามิโดที่รู้จักกันทั่วโลกจัดเป็นการโฆษณาประเภทใด ข. โฆษณาระดับชาติ
    5. ข้อใดคือการโฆษณาเพื่อการจูงใจ ค. โฆษณาขายครีมทาผิวที่ทำให้ผิวขาวนวล
    6. อะไรคือปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้สื่อโฆษณา ง. ถูกทุกข้อ
    7. สื่อโฆษณาประเภทใดจัดเป็น สื่อโสตทัศน์ ข. ภาพถ่าย
    8. สื่อโฆษณาประเภทใดที่เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวาง ค. วิทยุ
    9. การโฆษณากับสื่อประเภทใดที่ใช้เงินทุนสูง ก. โทรทัศน์
    10. ข้อบกพร่องของการใช้สื่อวิทยุคืออะไร ก. ดึงดูดความสนใจได้น้อยเพราะไม่เห็นภาพ
    11. ข้อใดกล่าวถูก ข. สื่อที่ดีที่สุดในการโฆษณาคือโทรทัศน์
    12. ระยะเวลาโฆษณาต่ำสุดในโทรทัศน์คือข้อใด ค. อย่างน้อย 15 วินาที
    13. ข้อใดคือ ขนาดของคอลัมน์นิ้ว ก. กว้าง 1 นิ้ว x สูง 1 นิ้ว
    14. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการส่งเสริมการขาย ข. จูงใจให้ซื้อ
    15. สื่อโฆษณาประเภทใดที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ได้ดีที่สุด ค. วิทยุ
    16. ป้ายโฆษณาที่ติดอยู่ตามอาคารสูงเป็นสื่อประเภทใด ค. สื่อสาธารณะ
    17. กิจกรรมใดที่ ไม่มี การโฆษณา ง. ทุกกิจกรรมมีการโฆษณา
    18. แผ่นพับที่เสนอขายบ้านจัดสรรของหมู่บ้านเจริญดี เป็นสื่อประเภทใด ก. สื่อสิ่งพิมพ์
    19. ข้อใดคือการโฆษณาประเภทสื่อบุคคล
    ข. สมศรีบอกเพื่อนๆ ว่าร้านอาหาร หายหิว ทำอาหารอร่อยและจัดร้านสวยมาก
    20. การจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าได้นั้น ควรโฆษณาเพื่อกระตุ้นเรื่องใดก่อน
    ก. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพื่อให้ลูกค้ารู้จักและสนใจ


    ตอบลบ
  4. บทที่ 5
    1. ข้อใดให้ความหมายของคำว่า “ผลิตภัณฑ์” (Product) ได้ดีที่สุด
    ข. สิ่งที่เสนอแก่ตลาดและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้

    ใช้ตัวเลือกต่อไปนี้ตอบคำถามในข้อ 2-5
    ก. ผลิตภัณฑ์สะดวกซื้อ (Convenience Product)
    ข. ผลิตภัณฑ์เลือกซื้อ (Shopping Product)
    ค. ผลิตภัณฑ์เจาะจงซื้อ (Specialty Product)
    ง. ผลิตภัณฑ์ไม่แสวงซื้อ (Unsought Product)
    2. สินค้าที่สามารถใช้ทดแทนกันได้ มีมูลค่าไม่สูงมากนัก
    ก. ผลิตภัณฑ์สะดวกซื้อ (Convenience Product)
    3. สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นตรายี่ห้อ ค. ผลิตภัณฑ์เจาะจงซื้อ (Specialty Product)
    4. สินค้าที่ต้องเปรียบเทียบราคา แบบ คุณภาพ ก่อนการตัดสินใจซื้อ
    ข. ผลิตภัณฑ์เลือกซื้อ (Shopping Product)
    5. สินค้าที่ผู้บริโภคมองไม่เห็นความจำเป็น ง. ผลิตภัณฑ์ไม่แสวงซื้อ (Unsought Product)
    6. ส่วนประสมผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
    ค. สายผลิตภัณฑ์ รายการผลิตภัณฑ์
    7. ประโยชน์พื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อมา เรียกองค์ประกอบในส่วนนี้ว่าอะไร
    ง. ผลิตภัณฑ์หลัก
    8. ข้อใดต่อไปนี้เป็นรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ (Formal Product)
    ก. สุรศักดิ์ซื้อทีวีเพราะขนาดจอที่ใหญ่ขึ้น ภาพคมชัด และยี่ห้อใช้ได้ดี
    9. ข้อใดถือว่าเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการก่อสร้างที่ได้มาจากธรรมชาติ ง. หิน ทราย กรวด
    10. น้ำยาล้างจาน แชมพูสระผม ยาสีฟัน จัดเป็นสินค้าประเภท ก. สะดวกซื้อ
    11. ผลิตภัณฑ์บางอย่าง ไม่มี พนักงานขาย ผู้บริโภคจะทราบข้อมูลต่างๆ ได้อย่างไร ง. ถูกทุกข้อ
    12. แหล่งข้อมูลในข้อใดที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด ก. ตัวผลิตภัณฑ์
    13. สิ่งใดที่พนักงานขาย ไม่ควร รู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ก. ข้อเสีย
    14. คู่มือขายหมายถึงอะไร ก. เอกสารที่เป็นข้อมูลด้านการขายแก่พนักงานขาย
    15. หน่วยงานใดที่เป็นแหล่งข้อมูลของผลิตภัณฑ์ ข. สื่อมวลชน
    16. ข้อใดแสดงถึงความรับผิดชอบของรัฐบาลที่มีต่อผู้ซื้อสินค้า ข. พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค
    17. ผลิตภัณฑ์ประเภทที่มีการเปรียบเทียบก่อนซื้อ ได้แก่ผลิตภัณฑ์ในลักษณะใด ก. ผลิตภัณฑ์หลัก
    18. การแสวงหาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ต่อพนักงานขายอย่างไร
    ค. สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง

    19. ข้อใด ไม่ใช่ สิ่งจำเป็นที่พนักงานขายต้องรู้ ค. ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
    20. รถยนต์จัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทใด ก. เปรียบเทียบก่อนซื้อ

    ตอบลบ
  5. ข้อใดคือลักษณะที่เรียกว่า สงครามเศรษฐกิจ

    ตอบลบ